วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

พื้นฐานในการตัดต่อวีดีโอและการตั้งค่า Project & Render

          หลังจากที่เราได้ทำการติดตั้งโปรแกรม Sony Vegas Pro 13.0 เรียบร้อยไปแล้ว นั่นคือเรามีเครื่องมือที่จะใช้แล้วละ ทีนี้จะใช้อย่างไร เริ่มตรงไหน? ... คงเป็นคำถามที่จะตามมาเยอะแยะเลย Workflow ที่เขาพูดๆ กัน จะเป็นอย่างไร ใจเย็นๆ ติดตามบทความไปเรื่อยๆ พร้อมลงมือทำ จะไม่เป็นเรื่องยากเลย

Workflow การตัดต่อวีดีโอง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน
-การตั้งค่า Project ให้เหมาะสมกับไฟล์วีดีโอของเรา
-การนำเข้า media ต่างๆ เช่น วีดีโอ ภาพนิ่ง เสียงเพลง, จัดเรียงลำดับงานของเราบน Timeline ตามที่เราต้องการ, การตกแต่ง ลูกเล่นโดยใช้ Effect หรือ Transition หรือ การใส่ตัวอักษร/ข้อความ, เสียงพากษ์หรือบรรยาย เพิ่มเติม
-การส่งออก (Render) หลังจากตกแต่งเสร็จหมดทุกอย่างแล้ว เราก็จะทำการส่งออกไฟล์ ไปใช้งาน
     หลักๆ ก็เหมือนมี Input - Process - Output ... งานหลักในที่นี้คือกระบวนการ Process นอกจากจะต้องทำความเข้าใจกับเครื่องมือที่ต้องใช้งาน และต้องใส่ความคิด+จินตนาการ ของเราลงไป

     การตั้งค่า Project เราทำความเข้าใจเพียงครั้งเดียว ก็จะใช้หลักการได้ตลอดไป ... ใช้แนวคิดขบวนการที่ย้อนกลับ Output > Process > Input

     การตั้งค่า Render เราต้องรู้จุดประสงค์ก่อนว่าจะเอาไฟล์ที่ตัดต่อเสร็จแล้วไปทำอะไร เพราะการนำไฟล์ไปใช้งานแต่ละประเภทจะไม่เหมือนกัน

การตั้งค่า Project Properties
    "เป็นการเริ่มต้นใหม่ด้วยคำสั่ง New ของทุกๆ โปรแกรม อย่างเช่นโปรแกรม MS-word ต้องกำหนดกั้นหน้า-กั้นหลัง, ระยะขอบ ... เหล่านี้เป็นต้น ในโปรแกรม Sony Vegas Pro ก็เช่นเดียวกัน
Project Property ง่ายๆ ให้ตั้งต่า frame rate ตาม video ที่ถ่ายมา ถ้าไม่รู้ให้ใช้เครื่องมือ "Match Media Video setting ... และตั้งค่า resolution ตามขนาดที่จะนำไปใช้"

    ข้อความบนนี้เป็นคำกล่าวของผู้มีประสบการณ์ ซึ่งส่วนมาแล้วพวกเขาจะ"ถ่ายวีดีโอเอง / ตัดต่อเอง" ซึ่งเขารู้ดีถึงความสามารถของอุปกรณ์ของเขาที่บันทึกภาพหรือวีดีโอมา ... ปัจจุบันกล้องวีดีโอส่วนใหญ่จะบันทึกมาแบบ Full-HD ขนาด 1920x1080 29.970 fps เป็นอย่างต่ำ (รายละเอียดในส่วนนี้ค่อยมาพูดกันอีกที)





สังเกตว่าเราเข้าถึงเมนูการตั้งค่า Project Property ได้ถึง 3 จุด
หรือจะเข้าทาง Short Cut : Alt+Enter (จุดที่ 4)


หน้าต่างการกำหนดค่าฯ

การตั้งค่า Project property 
> Tab : Video <
 Template : Custom (1920x1080, 29.970 fps)
 Pixel format : 32-bit floating point (video levels)
 Full-resolution rendering quality : Best
 Motion blur type : Gaussian
 Deinterlace method : Blend fields
 check [/] : Adjust source media to better match project or render setting (ตัดขอบดำ ซ้าย-ขวา)
> Tab : Audio <
 : Sample rate (hz)  :: 48,000
 : Bit depth :: 16
 : Resample and... :: Best
 check [/] : Start all new project with this setting
     ค่าต่างๆ ที่เห็นในกรอบสีเหลือง เป็นการอ่านค่าจากวีดีโอที่บันทึกมาด้วยการกดปุ่มทูลบาร์ Match Media Video Setting ... สำหรับค่าอื่นๆ ให้ตั้งตามในรูปไปก่อน จนกว่าท่านจะพบวิธีการที่ดีกว่านี้นะครับ
     ที่ตัวเลือกล่างสุด "check [/] : Start all new project with this setting" เป็นการกำหนดให้ใช้ค่านี้ในการเปิดใช้งานครั้งต่อๆ ไป

 *** ตอนนี้สมมุติว่าเราได้สร้างงานขึ้นมาแล้ว พร้อมจะนำไปใช้งาน"อัพขึ้น Youtube" ***

######

การตั้งค่า Render
     Render เป็นการส่งออกผลลัพท์ในงานของเราไปใช้งาน ซึ่งเราต้องรู้จุดประสงค์ก่อนว่าจะเอาไฟล์ที่ตัดต่อเสร็จแล้วไปทำอะไร เพราะการนำไฟล์ไปใช้งานแต่ละประเภทจะไม่เหมือนกัน (สังเกตที่นามสกุล เช่น .avi, .wmv, mp4 ...)
 
หลักการ render
ต้อง Render ให้ตรงกับ Format วีดีโอไฟล์ที่ตัดต่อ เช่น 720*576(SD), 1280*720(HD), 1920*1080(Full HD)
ต้อง Render ให้นามสกุลตรงกับการนำไปใช้ เช่น avi, mp4
Format Video ในโปรเจคเรา = 1920x1080, 29.970 fps / None (progressive scan)
  ... ที่สำคัญให้ตรงค่า Frame Rate (fps) และ Filels Order : Progressive / Upper(pal) / Lower(ntsc) เช่น ถ่ายมา 1920x1090-29.970p แล้วต้องการตัดต่อไปทำ Dvd ระบบ Pal ก็ตั้งค่าเป็น 720x576-25p
ขั้นตอนการ Render
     การเข้าถึงคำสั่ง Render ได้ 2 วิธี
จากเมนู File > Render as ...
จากทูลบาร์ Render as ...





การเรียกคำสั่ง Render


การกำหนดค่า

เลือกโฟลเดอร์และตั้งชื่อไฟล์ในการจัดเก็บ
เลือก Template (Sony AVC/MVC หรือ MainConcept AVC/AAC)
เลือก Customize Template เพื่อกำหนดค่าในรายละเอียด



การตั้งค่าต่างๆ
>> Customize template (Sony AVC/MVC) <<
 > Tab : Video <
 Video Format : AVC
 Frame size : (1920x1080) --> ตามที่ถ่ายมา
 Profile : High
 Entropy coding : CABAC
 Frame Rate : 29.970 (fps)  --> ตามที่ถ่ายมา
 Filels Order : progressive --> ตามที่ถ่ายมา
 Bit Rate : 15 หรือ 16 Mbps
 Encode Mode  :: Render using CPU only
 check [/] Enable progressive download
 > Tab : Audio <
 : Sample rate (hz) :: 44,000
 : Bit rate (bps)     :: 128,000
 > Tab : Sysstem <
 : Format :: MP4               --> นำไปโพสต์ขึ้น Youtube
 > Tab : Project <
 : Video rendering quality :: Best
...



                                                             เปรียบเทียบเทมเพลท Sony AVC / MainConcept AVC


แหล่งอ้างอิง:
     tigersmile (เมษายน2014).  บทความเรื่องพื้นฐานในการตัดต่อวีดีโอและการตั้งค่า Project & Render
     สืบค้นจาก http://www.tigersmile.net/2014/10/sony-vegas-pro-project-render.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น